“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?
01/04/2018   |   IN BLOG   |   BY BRAINFITSTUDIO

“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?

“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?

 

“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?

“สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ” หรือ การประมวลผลทางด้านการฟังบกพร่องกันแน่?

     คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงจะเหนื่อยกับปัญหา  การต้องพูดคุยกับลูกซ้ำๆ  บอกเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง แถมยังไม่จดจำอีก  วันนี้เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของอาการเหล่านี้ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดกันดีกว่าค่ะ อาการที่กล่าวมานั้น เป็นลักษณะที่สามารถพบได้ทั่วไปในเด็กที่ประสบปัญหาด้านการประมวลผลข้อมูลจากการฟัง (Central Auditory Processing Disorder) เป็นผลให้ฟังอะไรก็อาจไม่เข้าใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องพูดซ้ำๆ หรือพูดอะไรออกไปลูกก็ไม่สามารถจดจำได้อย่างครบถ้วน และเมื่อทักษะด้านการฟังซึ่งเป็นรากฐานของภาษาไม่แข็งแรงแล้ว ทักษะอ่าน รวมถึงการสื่อสารก็อาจประสบปัญหาได้ในอนาคต

  Central Auditory Processing Disorder (CAPD) คือ อาการที่มีความยากลำบากในการฟังเพื่อนำมาสื่อสาร ซึ่งเกิดจากความบกพร่องในทักษะการฟังหรือการประมวลผลทางด้านการฟังไม่แข็งแรงนั่นเอง (มักทำให้เกิดอาการ “สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ") โดยส่วนใหญ่มักจะถูกวินิจฉัยพร้อมกันกับอาการสมาธิสั้น อาทิ แยกเสียงที่ใกล้เคียงกันไม่ได้ ไม่เข้าใจเมื่อต้องอยู่ในที่ๆมีเสียงรบกวน หรือแม้กระทั่ง เรียกชื่อหลายครั้งแต่กลับไม่รู้ตัว ปัญหาเหล่านี้มีต้นตอมาจากทักษะการฟังโดยตรง ผู้ปกครองหลายท่านมักคิดว่า อาการดังกล่าวเกิดขึ้นกับเด็กเป็นเพราะ เด็กไม่มีความตั้งใจในการเรียนรู้ ไม่เก่ง คิดว่าเด็กมีอาการขาดสมาธิ ก้าวร้าว ดื้อ แท้จริงแล้วอาจเป็นเพราะความบกพร่องทางการฟังของเด็กที่ส่งผลให้ไม่สามารถฟังอะไรแล้วเข้าใจได้ทันที หรือต้องฟังคำสั่งซ้ำบ่อยๆ หากยังปล่อยไว้โดยที่ไม่พัฒนาทักษะทางด้านการฟัง อาการเหล่านี้จะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิต ไม่เพียงแค่นั้น ทักษะอื่นๆ เช่น การพูด การอ่าน การเขียนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน นั่นหมายความว่านี่จะเป็นอุปสรรคขัดขวางความสำเร็จในการเรียนรู้และส่งผลต่อความล้มเหลวในชีวิต นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆอีกต่อไป

 

      แนวทางการแก้ไขโดยการพาเด็กไปเรียนพิเศษเพิ่มเติม ให้เด็กฟังเสียงต่างๆที่หลากหลายเพื่อให้เกิดการจดจำ คือ การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วิธีที่เห็นผลและตรงจุดที่สุด คือ การพัฒนาทักษะทางด้านการฟังโดยการฝึกสมองในส่วนที่ควบคุมการได้ยิน (Temporal lobe) เพราะสมองส่วนนี้เป็นตัวการสำคัญในการวิเคราะห์เสียงและประมวลผลข้อมูลออกมา ดังนั้น สิ่งที่ได้ยินจะถูกต้องหรือไม่หรือจะเข้าใจมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของสมองนั่นเอง 

 

สั่งซ้ำ พูดไม่จำ ฟังไม่เข้าใจ

     จากผลงานวิจัยระดับนานาชาติกว่าร้อยฉบับรวมถึงสมาคมโสตสัมผัสและการแก้ไขการพูดแห่งประเทศไทย ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า Fast ForWord® เป็นโปรแกรมที่สามารถแก้ไขความบกพร่องด้านการประมวลผลทางด้านการฟังได้อย่างเห็นผลชัดเจนที่สุดภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน Fast ForWord® ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการวิเคราะห์เสียง และไม่น่าเชื่อว่าผลลัพธ์อื่นๆที่ผู้ฝึกจะได้รับนอกเหนือจากทักษะการฟังแข็งแรงขึ้น คือ ความจำดีขึ้น สมาธิดีขึ้น ทักษะพื้นฐานทางภาษาอังกฤษ รวมถึงทุกๆทักษะสามารถทำงานพร้อมๆกันได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และเมื่อทักษะพื้นฐานทางภาษาอังกฤษดีขึ้นแล้ว การต่อยอดการเรียนภาษาอังกฤษในขั้นสูง อาทิ คำศัพท์ การเขียน ไวยากรณ์ การอ่านจับใจความ และการสรุปความ ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

 

  

 

 

อ่านผลงานวิจัยยืนยันประสิทธิภาพของ Fast ForWord®  ได้ที่:

www.scilearn.com/blog/new-fast-forword-research

http://www.thaisha.or.th/content/article/การรู้จักและช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาการประมวลเสียงจากระบบประสาทส่วนกลาง

 

 

ติดต่อเราสำหรับส่วนลดพิเศษ

ขอรับคำปรึกษาได้ฟรี โทร 02-656-9938 – 9 

วันพฤหัสบดี-วันศุกร์ 091-774-3769

 

BrainFit จัดสัมนาเกี่ยวกับการพัฒนาสมอง และคอร์สระบบการฝึกของเรา อย่างสม่ำเสมอ **สำรองที่นั่งล่วงหน้า ที่นั่งมีจำนวนจำกัด**
หรือสามารถกรอกข้อมูลด้านล่าง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการติดต่อได้ทันทีค่ะ

 

ติดต่อเรา

หากคุณสนใจคอร์สหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อเราได้เลย

CAPTCHA
This question is for testing whether or not you are a human visitor and to prevent automated spam submissions.